ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เมนูไหนที่ห้ามำพลาดเมื่อไปรัสเซีย

การเดินทางนอกจากจะเที่ยวตามสถานที่และเมืองต่างๆ อีกอย่างที่จะเติมเต็มให้แต่ละทริปสมบูรณ์แบบ และยังเป็นการเรียนรู้วัฒนธรรม


ซุปบอร์ส (Borsch)




ซุปบอร์ช หรือที่รู้จักกันดีอีกชื่อหนึ่ง คือ ซุปบีทรูท เนื่องจากสีแดงเข้มของซุปมาจากสีของบีทรูทที่เป็นส่วนผสมสำคัญ

ซุปยอดนิยมของยุโรปตะวันออกรวมถึงยุโรปกลาง ซึ่งส่วนผสมแต่ละท้องถิ่นก็จะมีความแตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่จะอุดมไปด้วยผักนานาชนิดและเนื้อสัตว์ที่เคี่ยวจนได้ที่ 

รสชาติของซุปจะมีความหวานน้ำผักและเนื้อสัตว์ที่เคี่ยวจนรสกลมกล่อม ลักษณะเฉพาะที่ทำให้ซุปโดดเด่นแตกต่างจากอาหารชาติอื่นๆ ได้แก่การเติมซาวครีมลงไปในซุปและผสมให้เข้ากัน เพื่อความเข้มข้นและกลมกล่อมมากขึ้น ดังนั้นมาถึงรัสเซียแล้ว ห้ามพลาดที่จะชิมบอร์ส


สลัดโอลิเวีย (Olivier salad)





สลัดที่ทุกๆบ้านจะต้องมีติดครัว โอลิเวียถือว่าเป็นสลัดยอดนิยมที่สุดของรัสเซียที่จะอยู่บนโต๊ะอาหารเสมอในทุกเทศกาลและวันสำคัญ ส่วนผสมหลักประกอบไปด้วยวัตถุดิบในท้องถิ่น อาทิ แครอท มันฝรั่ง เมล็ดถั่วลันเตา ไข่ต้ม คลุกเคล้าให้เข้ากันและใส่น้ำสลัดลงไป เราสามารถสัมผัมความเป็นรัสเซียได้จากสลัดโอลีเวียที่จะบอกเล่าเรื่องราวความเป็นรัสเซียผ่านความเรียบง่ายแต่อร่อยได้ดีที่สุด


เปลมินี่ (Pelmeni)




อาหารพื้นบ้านที่ถูกนับว่าเป็นอาหารประจำชาติจานหนึ่งของรัสเซีย ความเป็นมายังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าเปลมินี่มีที่มาที่ไปอย่างไร แต่จากการสันนิษฐานได้ตั้งข้อสังเกตว่า เปลมินี่ ได้รับอิทธิพลมาจากเกี๊ยวของจีนและมองโกล ถ่ายทอดผ่านมาทางเขตไซบีเรียซึ่งติดกับเอเชีย ด้วยอากาศหนาวเกือบทั้งปี เปลมินี่จึงเป็นอาหารหลักของชนเผ่าแถบนั้นเพราะสามารถเก็บได้นาน ก่อนจะเป็นที่รู้จักของฝั่งตะวันตก 

ปัจจุบันเปลมินี่เป็นอาหารยอดนิยมอีกอย่างหนึ่งของชาวรัสเซีย ซึ่งจะมีไส้เนื้อ แพะ ปลา และรวมมิตรหลายๆ ส่วนผสมเข้าด้วยกัน ปรุงรสด้วยพริกไทย หัวหอมใหญ่ และกระเทียม ก่อนจะห่อเป็นชิ้นและเสิร์ฟพร้อมกับซาวครีมให้ทุกท่านได้ลิ้มลอง


คัทเลียทไก่ (Chicken Kiev)




ที่มาของเมนูนี้เริ่มต้นในสมัยช่วงศตวรรษที่ 18 ซึ่งพ่อครัวชาวรัสเซียพยายามจะดัดแปลงอาหารฝรั่งเศสให้เป็นเมนูที่ชาวรัสเซียรับประทานได้ โดยการทำคัตเลียทแบบฝรั่งเศสแต่สอดแทรกเนยและไส้เข้าไปในเนื้อบดจากนั้นนำไปทอดหรืออบ ก็จะได้เนื้อไก่ที่ฉ่ำไปด้วยเนยและสอดไส้ภายใน เมนูนี้ถูกตั้งชื่อว่าคัทเลียทสไตล์เคียฟ 


ไข่ปลาคาเวียร์ (Caviar)




ไข่ปลาคาเวียร์เป็นผลิตภัณฑ์มาจากปลาหลากหลายชนิด แต่ไข่ปลาจากปลาสเตอเจียนพันธุ์เบลูก้าในทะเลแคสเปียนถือว่าเป็นคาเวียร์ที่แพงที่สุด โดยปลา 1 ตัวอาจจะให้ไข่มูลค่าสูงถึง 3 ล้านบาท 

คาเวียร์เบลูก้ามีขนาดเม็ดเล็กกลมหรือรี โดยจะมีสีที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับปลาแต่ละตัว โดยส่วนใหญ่จะมีสีดำ เทา ไปจนถึงสีทอง 

คาเวียร์เป็นเมนูสำคัญสำหรับพระเจ้าซาร์ตั้งแต่สมัยโบราณเพื่อใช้ฉลองในค่ำคืนปีใหม่และเทศกาลสำคัญ ซึ่งคาเวียร์ก็กลายเป็นเมนูยอดนิยมของชาวรัสเซียมาจนปัจจุบันโดยจะรับประทานคู่กับขนมหรือเพนเค้กที่ทาด้วยซาวครีมหรือมายองเนส

ในปัจจุบันราคาคาเวียร์ปรับสูงขึ้นมากตั้งแต่ปี 2000 เนื่องจากปลามีจำนวนน้อยลงแต่มีความต้องการของตลาดมากขึ้น คาเวียร์จึงกลายเป็นเมนูราคาแพงระดับลักชัวรี่ที่และหารับประทานได้ยากขึ้น


ชาชลึค (Shashlik)




ชาชลึคหรือบาร์บีคิว โดยแท้แล้วชาชลึคไม่ใช่เมนูดั้งเดิมของสลาฟรัสเซียโบราณ แต่กลับได้รับอิทธิพลมาจากชาวเอเชียกลาง ซึ่งเป็นที่นิยมมากตั้งแต่สมัยสหภาพโซเวียตเป็นต้นมา

ธรรมเนียมการปิ้งชาชลึคแต่เดิม ผู้ชายจะต้องเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบและนำเนื้อหมักกับน้ำส้มสายชู ไวน์ หรือผลไม้รสเปรี้ยวเพื่อให้เนื้อนุ่มจากนั้นจึงก่อไฟและปิ้งย่างให้สุกพร้อมเสิร์ฟบนโต๊ะอาหาร ส่วนผู้หญิงมีหน้าที่เพียงแค่หั่นผักและจัดเตรียมโต๊ะอาหารเท่านั้น

ในสมัยสหภาพโซเวียตชาชลึคกลายเป็นเมนูยอดนิยมสำหรับการปิคนิค ซึ่งแต่ละครอบครัวจะชักชวนเพื่อนฝูงไปปิ้งชาชลึคในช่วงวันหยุดฤดูใบไม้ผลิ แต่ในปัจจุบันการปิ้งชาชลึคสามารถทำได้แม้กระทั่งช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือวันที่อากาศดี โดยไม่ได้ยึดตามแบบแผนเดิมมากนัก จะเรียกได้ว่าชาชลึคสานสัมพันธ์ก็ว่าได้


บีฟสโตรกานอฟ (Beef Stroganoff)




บีฟสโตรกานอฟ ถูกรังสรรขึ้นครั้งแรกในศตวรรษที่ 19 วังของขุนนางตระกูลสโตรกานอฟในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก แรกเริ่มแล้วบีฟสโตรกานอฟจะเป็นการนำเนื้อมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และนำไปตุ๋นกับซุป มัสตาร์ต และซาวครีม แต่ในยุคถัดๆมา เมื่อบีฟสโตรกานอฟเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น สูตรดังเดิมจึงถูกดัดแปลงไปตามท้องถิ่นต่างๆ บางครั้งมีการเพิ่มหัวหอม เห็ด และซอสมะเขือเทศลงไป พร้อมเสิร์ฟกับมันฝรั่ง 

จนกระทั่งหลังจากการสิ้นสุดระบอบกษัตริย์ เมนูนี้ได้รับความนิยมมากตามโรงแรมหรูต่างๆ รวมถึงต่างประเทศ อาทิ จีนและอเมริกา ซึ่งก็ได้มีการปรับสูตรให้เข้ากับท้องถิ่นนั้นๆ แต่ถ้ารับประทานแบบรัสเซีย บีฟสโตรกานอฟจะเสิร์ฟพร้อมกับมั่นฝรั่งและแตงกวาดองเสมอ


ปูยักษ์คัมชัตก้า (Kamchatka King Crab)




ปูคัมชัตก้าจัดอยู่ในกลุ่ม King Crab โดยธรรมชาติของปูยักษ์คัมชัตก้า จะอาศัยอยู่ในน้ำลึกและเย็นจัดบริเวณคาบสมุทรคัมชัตก้า ประเทศรัสเซีย ใกล้กับอลาสก้าของอเมริกา 

ในช่วงสงครามเย็น สหภาพโซเวียตขาดแคลนอาหารอย่างหนัก จึงได้ทดลองนำปูยักษ์คัมชัตก้ามาปล่อยที่ทะเลบาร์เรนท์ ทางตอนเหนือของรัสเซีย ซึ่งอยู่ในเขตขั้วโลกเหนือ มีอากาศหนาวเย็นเทียบเท่ากับแถบคัมชัตก้า เพื่อเป็นแหล่งอาหารใหม่ให้กับประชากร และขนส่งสะดวกกว่าคัมชัตก้าที่ใช้เวลานานกว่า

ปูยักษ์คัมชัตก้าแพร่ขยายจำนวนอย่างรวดเร็วในแถบทะเลบาร์เรนท์ ในปัจจุบันเกิดเป็นอุตสาหกรรมจับปูในเขตอาร์คติกทั้งรัสเซียแลันอร์เวย์ ซึ่งตั้งอยู่ติดกับทะเลบาร์เรนท์เช่นกันทำให้สร้างมูลค่าจำนวนมาก 

เมนูที่ได้รับความนิยมมาก ได้แก่ ปูนึ่ง เผา หรือซาซิมิแบบสด เพื่อลิ้มรสความสดและหวานของเนื้อปู นอกจากนั้นยังนิยมไปปรุงเป็นซุปปู สลัดปู หรือคัทเลียทปู หรือแม้กระทั่งเกี๊ยวไส้ปูก็ได้เหมือนกัน


ปาฟลาฟว่า (Pavlova cake)




เค้กปาฟลอฟว่ามีที่มาจากแอนนา ปาฟลาฟว่า นักบัลเลย์ชื่อดังชาวรัสเซีย ซึ่งเดินทางไปยังออสแตรเลียและนิวซีแลนด์เพื่อทำการแสดงในช่วงทศวรรษที่ 1920 

แอนนา ได้เขียนจดหมายไปยังเชฟของโรงแรมที่เข้าพัก ขอให้ทำเค้กให้กับเธอ จึงได้มีการร่วมกันรังสรรเค้กสูตรใหม่ ส่วนผสมหลักประกอบด้วยแป้งและไข่ขาว ประดับด้วยสตอเบอรรี่และเบอร์รี่นานาชนิด โดยตั้งชื่อว่าเค้กปาฟลาฟว่า” 

ในปัจจุบันเค้กปาฟลาฟว่าเป็นที่นิยมในรัสเซียเป็นอย่างมาก และมักจะใช้สำหรับเฉลิมฉลองเทศกาลสำคัญ


แพนเค้ก (Blini)




แพนเค้ก หรือ บลินนี่ ในภาษารัสเซีย มีความเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของชาวสลาฟโบราณ โดยแพนเค้กเป็นสัญลักษณ์แทนพระอาทิตย์และความสดชื่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม) ชาวรัสเซียจะต้องรับประทานเพนเค้กในเทศกาลมัสเลนนิสซ่าของทุกปี

บลินนี่ทำจากแป้ง นม และเนย จากนั้นนำไปทอดกับเนยเป็นแผ่นบาง และเสิร์ฟกับไส้แบบหวาน อาทิ น้ำผึ้ง ซาวครีม หรือไส้เค็ม อาทิ ไข่ปลาแซลมอล แฮม 


ปัจจุบันแพนเค้กกลายเป็นอาหารประจำวันของชาวรัสเซียที่ได้รับความนิยมสูงมาก



#รัสเซีย #เที่ยวรัสเซีย #ไปรัสเซีย #ทัวร์รัสเซีย #ทัวร์รัสเซียบินตรง #ทัวร์รัสเซียคุณภาพ #ไปรัสเซียทัวร์ไหนดี #เที่ยวรัสเซียVIP #มอสโก #เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก #ไกด์รัสเซีย #มูร์มานส์ก 
#LuxuryRussia #Russia #Udachi #lovingbyknowingrussia
#aurora #northenlight #murmansk #fifaworldcuprussia2018  #คนนำเที่ยวรัสเซีย #ไกด์รัสเซีย #คนไทยพาเที่ยวรัสเซีย #นักศึกษาไทยพาเที่ยวรัสเซีย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ผู้หญิงรัสเซียมีดีอะไร

***สาระ*** ในประเทศรัสเซีย วันที่ 8 มีนาคมถือเป็นวันหยุดอย่างเป็นทางการของชาวรัสเซีย เนื่องด้วยความสำคัญของสตรีที่มีส่วนก่อให้เกิดเหตุการณ์สำคัญทางบ้านเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสตรีในยุคสมัยโซเวียตที่มีส่วนร่วมในการต่อต้านสงครามและล้มล้างระบอบกษัติร์พระเจ้าซาร์ ดังนั้นเพื่อเป็นการระลึกถึงและให้เกียรติวีรสตรีชาวรัสเซีย คนรัสเซียจึงให้ความสำคัญกับวันนี้เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะหนุ่มๆจะมอบดอกกุหลาบให้กับหญิงอันเป็นที่รัก ราวกับเป็นวันวาเลนไทน์ของประเทศรัสเซียเลยทีเดียว ในวันผู้หญิงปีนี้ ถ้ายังไม่มีสาวจะให้ดอกไม้ ลองค่อยๆทำความรู้จักกับสาวรัสเซีย เพราะพวกหล่อนน่ะมีของ เผื่อปีหน้าอาจจะต้องเสียเงินซื้อดอกไม้ให้สาวรัสเซียก็เป็นได้ ผู้หญิงรัสเซียมีดีอะไร ทำไม๊ ทำไม หนุ่มๆทั่วโลกถึงแอบปลื้มปริ่มกันนักหนา มาดูข้อมูลจากเว็บไซต์ http://batop.ru/10-prichin-vstrechatsya-s-russkoy-devushkoy ที่อธิบายเหตุผลว่าทำไม คุณถึงควรคู่กับหญิงรัสเซีย แน่นอนเรื่องความสวย เป็นที่ร่ำลือกันมานานแสนนาน ว่าสาวรัสเซียสวยจริง เด็ดจริง เดินมา 10 สวย 8 น่ารักอีก 2 พันธุกรรมเค้าเป็

มารยาทรัสเซีย

มารยาทในรัสเซีย การทักทาย ผู้ชายจับมือทักทายกันโดยต้องจับแบบกระชับแน่นแสดงถึงมิตรภาพและความยินดีที่ได้พบกั ผู้ชายจับมือทักทายผู้หญิงความกระชับน้อยกว่าทักทายผู้ชายด้วยกัน ผู้หญิงทักทายกันโดยให้แก้มชนแก้ม 3 ครั้ง โดยเริ่มจากด้านซ้าย เมื่อผู้ชายทักทายกับเพื่อนสนิท อาจจะมีการกอดกันและตบที่หลังเบาๆ การเรียกชื่อ ชาวรัสเซียจะมีชื่อจริง ชื่อกลางหรือชื่อพ่อ และนามสกุล เรียงตามลำดับ การเรียกชื่อสำหรับคนที่ไม่สนิท จะเรียกชื่อ ชื่อกลาง และนามสกุล หรือในบางกรณีจะเรียกชื่อ และชื่อกลาง โดยชื่อกลางนั้นมาจากชื่อพ่อและเติม ‘- vich’ หรือ ‘-ovich’ ในกรณีผู้ชาย และเติม ‘-avna’ หรือ ‘- ovna’ ในกรณีผู้หญิง ชื่อพ่อว่า Ivan ดังนั้นชื่อกลางของผู้หญิงจะออกมาเป็น Ivanovna และผู้ชายออกมาเป็น Ivanovich คนสนิทหรือคนในครอบครัวจะเรียกแค่ชื่อ หรือชื่อในแบบสั้นๆ เช่น Alexander มีชื่อสั้นว่า Sasha การให้ของขวัญ  (สำหรับมอบในวันเกิดคนสนิท วันปีใหม่ และคริสมาสต์) หากได้รับเชิญจากเพื่อนรัสเซียให้เตรียมของขวัญเล็กน้อยเพื่อมอบให้เมื่อไปถึงสำหรับผู้ชาย ส่วนใหญ่จะมอบดอกไม้ให้เจ้าของบ้าน แต่ห้ามนำดอกไม้สีเห

8 แบรนด์ดังยังต้องออกคอลเลคชั่นเฉพาะสำหรับประเทศรัสเซียเท่านั้น

รัสเซียจัดว่าเป็นประเทศมหาอำนาจหนึ่งของโลก ดังนั้นไม่น่าแปลกที่หลากหลายแบรนด์ต่างจะต้องผลิตสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาดรัสเซีย แต่จะมีอะไรบ้างนั้น ไปติดตามกัน 1. iPhone à la russe   บริษัทจิวเวลรี่ “Caviar” ซึ่งผลิตเคสมือถือแบบลักชัวรี่เท่านั้น ได้ออกคอลเลคชั่นสำหรับรัสเซียตั้งแต่ปี 2014 สำหรับมือถือกว่า 60 รุ่น โดยแบ่งเป็นเคสมือถือและอุปกรณ์สำหรับตกแต่งมือถือในแบบ “Russian style” และล่าสุดได้จัดทำคอลเลคชั่นสำหรับประธานาธิบดีปูติน โดยได้แรงบันดาลใจมาจากภูเขาไฟคัมชัตก้าที่ตะวันออกไกลของรัสเซีย 2. Traditional crème in new pack นีเวีย ครีมประทินผิวจากฝั่งเยอรมันได้เข้ามาทำตลาดในรัสเซียหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ในปี 2014 นีเวียได้ผลิตคอลเลคชั่นสำหรับรัสเซียโดยเฉพาะ ซึ่งผลิตภัณฑ์จะเป็นรูปครอบครัวที่กำลังเล่นสเก็ตบนหิมะ แตกต่างจากที่วางขายในประเทศอื่นๆ 3. Russian Rose แบรนด์เครื่องสำอางค์ยักษ์ใหญ่ อย่าง Giorgio Armani ผลิตสีลิปใหม่โดยให้ชื่อว่า “Russian Rose” และวางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้น หลังจากดีไซเนอร์ของแบรนด์ได้เดินทางไปย